GED เป็นประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลายตามระบบการศึกษานอกโรงเรียนของประเทศสหรัฐอเมริกา
การสอบ GED สอบได้ตั้งแต่อายุ 17 ปีขึ้นไป มีคนมากกว่า 860,000 คนเข้าสอบในแต่ละปี สำหรับในประเทศไทย น้องๆสามารถสอบได้ตั้งแต่อายุ 16 ปีขี้นไป ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับ GED รายงานว่านักศึกษาที่สอบผ่านเกณฑ์ จนได้รับประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลายของ GED ประสบความสำเร็จทั้งในการศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา และในอาชีพการงานในระดับที่น่าพึงพอใจ เช่นเดียวกับนักศึกษาในระบบโรงเรียนมัธยมศึกษาตอนปลายของสหรัฐอเมริกา
บุคคลที่มีชื่อเสียงในประเทศสหรัฐอเมริกาจำนวนไม่น้อยที่เคยสอบ GED มาแล้วทั้งสิ้น เช่น Bill Cosby
นักแสดงที่มีชื่อเสียง, Dave Thomas ซึ่งเป็นผู้ก่อตั้งร้านอาหารฟาสฟู้ด Wendy's, Ruth Ann Minner
ผู้ว่าการรัฐเดลลาแวร์ และวุฒิสมาชิกของประเทศสหรัฐอเมริกา Ben Nighthorse Campbell เป็นต้น
การสอบเทียบวุฒิมัธยมศึกษาตอนปลายของ GED นั้นได้รับการยอมรับจากเจ้าของกิจการ ผู้ประกอบการ วิทยาลัย มหาวิทยาลัยและหน่วยงานของทางกองทัพสหรัฐอเมริกาเป็นอย่างดี
การสอบเทียบวุฒิมัธยมศึกษาตอนปลายของ GED
เนื้อหาสาระของข้อสอบ GED จะสะท้อนถึงผลการศึกษาวิชาหลักๆในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายในภาพรวม
การสอบจะเน้นความสำคัญของความสามารถในการคิดเป็นและแก้ปัญหา เพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการหรือข้อกำหนดของสถานประกอบการและสถาบันอุดมศึกษา การสอบจะใช้ข้อสอบแบบปรนัย ยกเว้นการสอบการเขียนภาษาอังกฤษ
1. Mathematics
ข้อสอบวัดความรู้ 2 ด้าน
1) การเลือกใช้สูตรและการคำนวณให้สอดคล้องกับโจทย์ที่กำหนดให้ 45% (Quantitative)
2) การแก้ปัญหาทางพีชคณิต 55% (Algebraic) เนื้อหาครอบคลุมความรู้เบื้องต้น และการนำไปประยุกต์ใช้ แก้โจทย์ปัญหา โดยมีเนื้อหาดังนี้
- จำนวนเต็ม และการแก้โจทย์ปัญหา
- อัตราส่วน สัดส่วนและเศษส่วน
- การวิเคราะห์ข้อมูล,สถิติ,ความน่าจะเป็น
- พีชคณิต1 (สมการ,อสมการ,ฟังกชั่น,กราฟ,สมการ Quadratic)
- เรขาคณิตพื้นฐาน
- เปอร์เซ็นต์
ข้อสอบแบ่งเป็น 2 ส่วน
1) ไม่อนุญาตให้ใช้เครื่องคิดเลข
2) อนุญาตให้ใช้เครื่องคิดเลขได้ (เครื่องคิดเลขในคอมพิวเตอร์รุ่น TI-30xs)
2. Science
ผู้เรียนจะต้องมีความรู้ครอบคลุมในวิชาวิทยาศาสตร์ครบทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นชีววิทยา เคมี ฟิสิกส์
สิ่งแวดล้อม และดวงดาวอวกาศ รวมไปถึงการใช้สูตรในการคำนวณหาคำตอบเชิงฟิสิกส์ ได้จริง
ข้อสอบวัดความรู้ 3 ด้าน
1) วิทยาศาสตร์ในชีวิตประจำวัน ( Life Science) 40% โดยเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับสิ่งที่อยู่รอบตัวเรา หรือปรากฏการณ์ธรรมชาติ ตั้งเป็นคำถามเพื่อให้นักเรียนสามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้ในชีวิตประจำวันได้
2) วิทยาศาสตร์กายภาพ ( Physical Science) 40 % ซึ่งเนื้อหาจะเน้นความรู้ด้านฟิสิกส์ และเคมีเป็นหลัก เช่น ปรากฏการณ์แรงโน้มถ่วง แรงดึงดูด และการทดลองทางวิทยาศาสตร์
3) ดาราศาสตร์ โลกและดวงดาว ปรากฏการณ์ทางธรรมชาติต่างๆ (Earth and Space Science) 20% เช่น ระบบสุริยะจักรวาล ดาวฤกษ์ ดาวเคราะห์ สุริยุปราคา จันทรุปราคา เป็นต้น
3. Social
แนวข้อสอบใหม่ของ GED 2017 นั้นจะเน้นเนื้อหาให้ผู้สอบสามารถตีความหลักการและเหตุผลพื้นฐานของวิชาสังคมศาสตร์ เพื่อสามารถปรับประยุกต์ใช้ได้ในการดำเนินชีวิต โดยเนื้อหารายละเอียดของ วิชาจะเน้นที่ 4 ประเด็นหลัก ดังนี้
1) การเมืองและรัฐบาล 50%
2) ประวัติศาสตร์สหรัฐอเมริกา 20%
3) เศรษฐศาสตร์ 15%
4) ภูมิศาสตร์และประวัติศาสตร์โลก 15%
4. Reasoning Through Language Arts
เนื้อหาจะเน้นที่ทักษะ 3 อย่างคือ การอ่าน การเขียน และการเข้าใจหลักกฎไวยากรณ์และใช้ได้อย่างถูกต้อง
การอ่าน
การอ่านใน GED จะเน้นไปที่ความเข้าใจ ผู้สอบจะต้องมีความรู้และความเข้าใจภาษาอังกฤษในหลากหลายวิชา อาทิเช่น วิชาวิทยาศาสตร์ สังคมศาสตร์ วรรณกรรม และการอ่านจดหมายหรือข้อความต่างๆ ในเชิงธุรกิจ เพื่อที่จะสามารถต่อยอดการเรียนรู้ในอนาคตได้ โดยเนื้อหาจะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลักๆ ดังนี้
1. การอ่านวรรณกรรม นวนิยาย และการเขียนเชิงสร้างสรรค์ (literature and fiction)
2. การอ่านข้อมูล บทความ ข่าว สาระและประเด็นสำคัญต่าง ๆ (informational texts)
การเขียน
สำหรับการเขียน ผู้สอบจะต้องมีความสามารถในการเขียนเรียงความเป็นภาษาอังกฤษในรูปแบบของการเขียนเชิงโต้แย้งหรือ (argumentative essay) ได้จากการอ่านบทความในข้อสอบและทำความเข้าใจ
เนื้อความ ค้นหารายละเอียด แยกแยะข้อมูล รวมถึงสังเคราะห์ข้อมูลต่างๆ ออกมาได้อย่างดีเยี่ยม
เพื่อที่จะทำการเขียนเรียงความได้อย่างถูกต้อง เข้าใจ ชัดเจน และตรงประเด็นตามที่รูปแบบของข้อสอบได้กำหนดไว้
คะแนนเต็มของในส่วน Writing จะอยู่ที่ 6 คะแนน โดยแบ่งออกเป็น 3 ส่วนหลักๆ ดังนี้
1. หลักฐานและการวิเคราะห์ข้อโต้แย้ง (Evidence and Argumentation)
2. โครงสร้างภาษา (Organizational Structure)
3. ความสามารถในการใช้ภาษา (Grammar and Language Competency)
ไวยากรณ์
ในส่วนสุดท้าย รูปแบบไวยากรณ์ วิชา RLA จะเน้นไปทางด้านการใช้จริง ผู้สอบควรมีความรู้พื้นฐานทางด้านไวยากรณ์ และสามารถประยุกต์ใช้ในบริบทต่างๆ ในส่วนนี้ผู้สอบจะต้องทำการเลือกข้อความที่ถูกต้องและเหมาะสมตามหลักไวยากรณ์ภาษาอังกฤษ อาทิเช่น การเขียนอีเมล์ การเขียนประกาศและการแจ้งข้อมูลต่างๆ เป็นภาษาอังกฤษ
เนื้อหาในข้อสอบ
- 75% ของบทความจะเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับการอ่านข้อความและข้อมูล รวมไปถึงเรื่องราวต่างๆ จากวิชาวิทยาศาสตร์และสังคมศึกษา
- 25% ของบทความจะเป็นเนื้อหาในส่วนของวรรณกรรม นวนิยาย หรือการเขียนในเชิงสร้างสรรค์
GED Testing Centers in Thailand
ตารางเรียน GED สาขา Seacon Square
-
ทำไมต้องเรียน GED กับ WSCWorld Study Center (WSC) เป็นสถาบันกวดวิชาที่เปิดมานานกว่า 18 ปี ได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการ และยังเป็นตัวแทนอย่างเป็นทางการกับ GED Testing Service และ IDP IELTS รวมถึงมหาวิทยาลัยชั้นนำอีกมากมาย มีผลงานนักเรียนการันตีนับหมื่น - เรามีทีมอาจารย์ผู้สอนที่มีประสบการณ์และมีความเชี่ยวชาญในเนื้อหา GED สามารถสอนให้นักเรียนเข้าใจเนื้อหาและเตรียมความพร้อมสำหรับการสอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ - มีการปรับปรุงหลักสูตรอยู่เสมอเพื่อให้สอดคล้องกับข้อสอบ GED - มีบริการดูแลแบบครบวงจร นักเรียนสามารถปรึกษาอาจารย์ผู้สอนและแอดมินได้ตลอด ไม่ว่าจะในเวลาเรียนหรือนอกเวลา - ผลงานนักเรียนการันตีมากมาย นักเรียนสามารถมั่นใจได้ว่าจะได้รับการสอนที่มีคุณภาพ ได้รับความรู้ที่สามารถนำไปใช้ได้จริง นอกจากนี้ WSC ยังมีหลักสูตร GED ที่หลากหลาย ให้เลือกเรียนตามความต้องการของนักเรียน เช่น คอร์ส GED แบบกลุ่ม คอร์ส GED แบบเดี่ยว คอร์ส GED ออนไลน์ เป็นต้น นักเรียนสามารถเลือกเรียนหลักสูตรที่เหมาะกับตัวเองได้
-
คอร์ส GED ที่ WSC เปิดสอนมีแบบไหนบ้างWSC เปิดสอนหลักสูตร GED ทั้งหมด 4 วิชา ได้แก่ RLA, Math, Science, Social สำหรับคอร์ส GED ที่ WSC เปิดสอน มีดังนี้ 1) คอร์ส Pre GED เป็นคอร์สเตรียมความพร้อมสำหรับนักเรียนที่กำลังจะสอบ GED เน้นปูพื้นฐานความรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรับการสอบ GED โดยครอบคลุมเนื้อหาทั้งหมด 4 วิชา 2) คอร์ส GED เป็นคอร์สเรียนเนื้อหา GED ครบทั้ง 4 วิชา เหมาะสำหรับนักเรียนที่มีพื้นฐานความรู้และทักษะที่จำเป็นสำหรับการสอบ GED แล้ว นอกจากนี้ WSC ยังมีหลักสูตร GED ให้เลือกเรียนตามความต้องการของนักเรียน เช่น คอร์ส GED แบบกลุ่ม คอร์ส GED แบบเดี่ยว คอร์ส GED ออนไลน์ เป็นต้น
-
วุฒิ GED เข้ามหาวิทยาลัยไหนได้บ้างวุฒิ GED เป็นวุฒิการศึกษาเทียบเท่าระดับมัธยมศึกษาตอนปลายของสหรัฐอเมริกา ซึ่งได้รับการยอมรับจากมหาวิทยาลัยทั่วโลกกว่า 3,000 แห่งใน 180 ประเทศ ในประเทศไทยเองวุฒิ GED ได้รับการรับรองจากกระทรวงศึกษาธิการ และสามารถใช้ยื่นเข้าได้ทุกมหาวิทยาลัย ไม่ว่าจะเป็น * จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย * มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ * มหาวิทยาลัยมหิดล * มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ * มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ สามารถตรวจสอบรายชื่อมหาวิทยาลัยที่รับวุฒิ GED ได้จากเว็บไซต์ GED อย่างเป็นทางการที่ https://ged.com/en/university-acceptance/ โดยสามารถพิมพ์ชื่อประเทศหรือเมืองที่ต้องการค้นหา เท่านี้ก็จะมีรายชื่อ ที่อยู่ และเว็บไซต์ของแต่ละมหาวิทยาลัยออกมาแล้ว อย่างไรก็ตาม สิ่งสำคัญที่ควรทราบคือ แต่ละมหาวิทยาลัยและแต่ละคณะอาจมีเกณฑ์การรับวุฒิ GED ที่แตกต่างกันไป ดังนั้นจึงควรตรวจสอบข้อมูลของแต่ละมหาวิทยาลัยและของแต่ละคณะก่อนสมัครเรียน เพื่อให้สามารถวางแผนการสอบ GED ได้ล่วงหน้า โดยสรุปแล้ว วุฒิ GED เป็นวุฒิการศึกษาที่มีคุณภาพและได้รับการยอมรับจากมหาวิทยาลัยทั่วโลก จึงสามารถมั่นใจได้ว่าการเรียน GED เป็นทางเลือกที่ดีทางหนึ่งสำหรับนักเรียนที่สนใจศึกษาต่อในระดับปริญญาตรี